Home » Water Flosser vs ไหมขัดฟัน อะไรดีกว่ากันสำหรับรากเทียม
หลายคนอาจทราบดีว่าการดูแลสุขภาพฟันและความสะอาดในช่องปากเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะผู้ที่ทำรากเทียม (Dental Implant) ซึ่งต้องใส่ใจการทำความสะอาดเป็นพิเศษ การแปรงฟันเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากคราบพลัคและเศษอาหารมักติดอยู่ตามซอกฟันและรากฟันเทียม ทำให้เกิดปัญหาเหงือกอักเสบหรือการติดเชื้อได้
เมื่อพูดถึงอุปกรณ์ทำความสะอาดฟัน หลายคนคงคุ้นเคยกับไหมขัดฟันที่ใช้มานาน แต่ปัจจุบันมีตัวเลือกใหม่อย่าง Water Flosser หรือเครื่องฉีดน้ำทำความสะอาดฟัน ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น คำถามคือ ระหว่างไหมขัดฟันกับ Water Flosser อะไรดีกว่าสำหรับรากเทียม วันนี้ทันตแพทย์จาก Pearl Dental Clinic Chiang Mai จะพาทุกคนมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับอุปกรณ์ทำความสะอาดฟัน ว่าแบบไหนตอบโจทย์การใช้งานมากกว่ากัน
เทคโนโลยี Water Flosser ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่มีข้อจำกัดในการใช้ไหมขัดฟัน เช่น ผู้ที่ทำ รากฟันเทียม (Dental Implant) โดยเฉพาะในกรณีของ รากเทียมแบบ All-on-4 หรือสะพานฟัน ซึ่งไม่สามารถใช้ไหมขัดฟันแบบดั้งเดิมได้สะดวก นอกจากนี้ Water Flosser ยังช่วยทำความสะอาดซอกฟันได้ลึกกว่า ด้วยแรงดันน้ำที่สามารถขจัดคราบพลัคและเศษอาหารที่ติดอยู่ใต้ฐานรากเทียมหรือสะพานฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันคนไข้ที่ใส่เครื่องมือจัดฟันก็เริ่มหันมาใช้ Water Flosser กันมากขึ้น เนื่องจากสะดวกและลดโอกาสเกิดปัญหาสะสมคราบแบคทีเรียรอบ ๆ อุปกรณ์จัดฟัน
Water Flosser ไหมขัดฟันพลังน้ำ ถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มี รากเทียม, ฟันสะพาน, หรือเครื่องมือจัดฟัน เนื่องจากสามารถเข้าถึงบริเวณที่ไหมขัดฟันอาจเข้าไม่ถึงได้ อย่างไรก็ตาม หากฟันไม่มีปัญหารุนแรง หรือไม่มีเครื่องมือทางทันตกรรม การใช้ไหมขัดฟันแบบเดิม ๆ อาจเป็นตัวเลือกที่ง่ายกว่าและประหยัดกว่า เพราะการใช้ไหมขัดฟันช่วยให้สามารถขจัดเศษอาหารและคราบพลัคได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านการเสียดสีโดยตรง ทำให้ฟันสะอาดกว่าในบางกรณีเมื่อเทียบกับการใช้เครื่องฉีดน้ำเพียงอย่างเดียว
ไหมขัดฟันเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดฟันที่ถูกออกแบบมาเพื่อขจัดเศษอาหารและคราบพลัคระหว่างซอกฟัน ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันฟันผุและปัญหาเหงือกอักเสบ ในอดีตไหมขัดฟันทำจากเส้นใยไหมธรรมชาติที่นำมาบีบอัดรวมกันเป็นเส้น ปัจจุบันมีการพัฒนาให้เคลือบขี้ผึ้งเพื่อให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น และปรับเปลี่ยนมาใช้วัสดุ ไนลอน (Nylon) แทน เพื่อเพิ่มความทนทานและลดโอกาสที่เส้นไหมจะขาดขณะใช้งาน
การแปรงฟันเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถทำความสะอาดได้ทุกซอกทุกมุม โดยเฉพาะบริเวณด้านข้างของฟันและร่องเหงือก ซึ่งเป็นจุดที่แบคทีเรียสะสมได้ง่าย หากไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างเหมาะสม อาจเกิดคราบพลัคที่นำไปสู่ปัญหาเหงือกอักเสบ ฟันผุ และกลิ่นปาก ดังนั้น ไหมขัดฟันจึงเป็นอุปกรณ์ที่ทันตแพทย์แนะนำให้ใช้เป็นประจำวันละ 1-2 ครั้งต่อวัน เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี
การเลือกไหมขัดฟันให้เหมาะสมขึ้นอยู่กับโครงสร้างฟันและอุปกรณ์ทางทันตกรรมที่ใช้อยู่ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเลือกใช้ไหมขัดฟัน หรือ Water Flosser สิ่งสำคัญคือการพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทของเครื่องมือทางทันตกรรมที่ใส่อยู่ ไม่ว่าจะเป็น รากฟัน, จัดฟัน, สะพานฟัน หรืออุปกรณ์อื่น ๆ รวมถึงความสะดวกในการใช้งาน โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีข้อจำกัดในการใช้มือ เช่น จากอุบัติเหตุหรือโรคเกี่ยวกับข้อต่อ การเลือกอุปกรณ์ทำความสะอาดฟันที่เหมาะสมกับตนเอง ไม่เพียงแต่ช่วยให้ช่องปากสะอาดขึ้น แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของรากฟันเทียมและสุขภาพช่องปากโดยรวมได้อีกด้วย
Pearl Dental Clinic Chiang Mai เรามีบริการทันตกรรมครบวงจร รวมถึงการทำรากฟันเทียม (Dental Implant) โดยทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ใช้วัสดุคุณภาพสูงและเทคโนโลยีทันสมัย เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่า รากเทียม จะแข็งแรงและมีอายุการใช้งานยาวนาน พร้อมคำแนะนำด้านการดูแลสุขภาพช่องปากที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล สนใจรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการทำรากเทียมหรือบริการทางทันตกรรมอื่น ๆ สามารถติดต่อ Pearl Dental Clinic Chiang Mai
บทความล่าสุด
ข้อแตกต่างทำฟันเชียงใหม่ระหว่างทำวีเนียร์กับครอบฟัน
คู่มือฉบับสมบูรณ์การดูแลรากเทียมให้อยู่ได้นาน 20 ปี
อายุเท่าไหร่เหมาะสมสำหรับการทำรากฟันเทียม คำตอบที่คุณต้องรู้
รวมข้อมูลฟอกสีฟันกับ PEARL DENTAL CLINIC ทำฟันเชียงใหม่
นัดเพื่อปรึกษาทันตแพทย์
เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์
เวลาทำการ 9.30 – 20.00 น.
ที่อยู่ : 316 โครงการ J Space ตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
แผนที่ : Pearl Dental Clinic