PEARL DENTAL CLINIC

การแตกของครอบฟันบนรากฟันเทียม ป้องกันได้อย่างไร

การแตกของครอบฟันบนรากฟันเทียม ป้องกันได้อย่างไร

หลายๆ คนที่ใส่รากฟันเทียม (Dental implant) มาแล้ว อาจเคยได้ยินหรือพบเจอเรื่องของปัญหา “ครอบฟันแตก” หรือชำรุด ที่สร้างความกังวลใจทั้งในเรื่องของสุขภาพฟัน ความมั่นใจ และค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ปัญหานี้สามารถป้องกันได้หากมีการดูแลที่ถูกต้องและเลือกวัสดุที่เหมาะสม แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ครอบฟันที่อยู่บนรากเทียมนั้นก็สามารถเกิดปัญหาแตกหรือเสียหายได้เช่นกัน แล้วครอบฟันนี้คืออะไร แตกแล้วส่งผลอย่างไร ต้องแก้อย่างไร มาทำความเข้าใจกันให้ชัดเจนไปกับเรา

สารบัญเนื้อหา

ครอบฟันบนรากฟันเทียมคืออะไร

เมื่อเราฝังรากฟันเทียมเข้าไปในกระดูกขากรรไกรแล้ว ขั้นตอนถัดมาคือการ ใส่ “ครอบฟัน” (Crown) ซึ่งเป็นส่วนที่ทำหน้าที่แทนฟันธรรมชาติที่มองเห็นและใช้เคี้ยวอาหาร ครอบฟันจะถูกยึดติดกับรากผ่านตัวเชื่อมที่เรียกว่า Abutment ทำให้ดูเหมือนฟันธรรมชาติทุกประการ ทั้งรูปลักษณ์และการใช้งาน

แล้ว “ครอบฟันแตก” คืออะไร

ครอบฟันแตก คือ การที่วัสดุของครอบฟัน เช่น เซรามิกหรือพอร์ซเลนที่ครอบอยู่บนรากเกิดรอยร้าวหรือแตกหัก 

แค่ครอบฟันแตก ไม่ได้แปลว่ารากฟันเสีย

หลายคนมักตกใจเมื่อเห็นครอบฟันร้าวหรือหลุด คิดว่ารากเทียมเสียหายไปด้วย แต่ความจริงแล้วครอบฟันแตกไม่ได้หมายความว่ารากที่ฝังไว้เสีย เพราะรากยังฝังแน่นอยู่ในกระดูกเหมือนเดิม เพียงแค่ต้องแก้ไขส่วนครอบด้านบนเท่านั้น

ควรตรวจรากเทียมบ่อยแค่ไหน ความถี่ที่เหมาะสมคือเมื่อไหร่

หลังจากฝังรากเทียมแล้ว การตรวจติดตามผลตามวัน เวลานัดหมายถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน และตรวจสอบความมั่นคง โดยทั่วไปมีแนวทางดังนี้

  • เดือนแรก – 2 เดือนแรก: เป็นช่วงที่ควรตรวจติดตามเพื่อดูว่ารากเริ่มยึดเกาะกับกระดูกได้ดีหรือไม่
  • ภายใน 6 เดือนแรก: ทันตแพทย์จะประเมินการใช้งานจริงของราก รวมถึงพฤติกรรมการเคี้ยว การสบฟัน และสุขภาพเหงือก
  • หลังจากครบ 1 ปี: ควรตรวจรากฟันเทียมอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อดูว่ามีการสึกหรอ การคลอน หรือการอักเสบเกิดขึ้นหรือไม่

การพบแพทย์เป็นประจำจะช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาเล็กๆ ก่อนลุกลาม และช่วยยืดอายุของรากที่ฝังไว้ได้อีกหลายปี

สาเหตุหลักที่ทำให้ครอบฟันแตกบนรากฟันเทียม

การทำรากฟันเทียม (Dental implant) ถือเป็นทางเลือกยอดนิยมในการทดแทนฟันที่สูญเสียไป เพราะให้ความรู้สึกเหมือนฟันธรรมชาติทั้งด้านรูปลักษณ์และการใช้งาน อย่างไรก็ตาม หนึ่งในปัญหาที่หลายคนพบเจอคือ “การแตกของครอบฟัน” นอกจากจะส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้งานแล้ว ยังอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่ด้วย

เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้น เรามาดูกันว่าอะไรคือ สาเหตุหลักที่ทำให้ครอบฟันแตกบนรากฟันเทียม และควรดูแลอย่างไรให้ใช้งานได้ยาวนาน

  1. ใช้แรงบดเคี้ยวที่มากเกินไป

หากคุณเคี้ยวอาหารแข็ง เช่น น้ำแข็ง ถั่ว หรือของเหนียวมากเกินไป อาจทำให้ครอบฟันบนรากที่ฝังแตกหรือร้าวได้ง่าย โดยเฉพาะหากไม่ได้เลือกวัสดุครอบฟันที่แข็งแรงพอสำหรับรองรับแรงในตำแหน่งนั้น

  1. กัดฟันหรือขบฟันตอนหลับ

หลายคนอาจไม่รู้ตัวว่ามีพฤติกรรมกัดฟันขณะนอนหลับ ซึ่งส่งแรงกดทับต่อครอบฟันบนรากฟันอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้วัสดุเกิดการสึกหรือแตกได้ในระยะยาว โดยเฉพาะหากไม่มีการใส่เฝือกสบฟันเพื่อป้องกัน

  1. วัสดุครอบฟันไม่เหมาะสมกับตำแหน่งใช้งาน

การเลือกวัสดุครอบฟัน เช่น พอร์ซเลน เซรามิก หรือโลหะ ควรพิจารณาตามตำแหน่งของ Dental implant และแรงเคี้ยวที่ใช้งานในจุดนั้น หากเลือกวัสดุไม่เหมาะสมอาจเกิดความเปราะและแตกได้ง่าย

  1. ปัญหาการสบฟันหรือการออกแบบรากที่ฝังไม่พอดี

การวางแผนตำแหน่งรากฟันที่ไม่แม่นยำ หรือครอบฟันที่ไม่เข้ากับการสบฟัน อาจทำให้เกิดแรงกดจุดเดียวซ้ำๆ จนเกิดการแตกของครอบฟันตามมา

วิธีป้องกันครอบฟันแตกบนรากฟันเทียม

การดูแลครอบฟันที่อยู่บนรากฟันเทียม (หรือที่หลายคนเรียกว่า รากเทียม) เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะแม้รากจะถูกฝังแน่นในกระดูกขากรรไกรแล้ว แต่ “ครอบฟัน” ที่อยู่ด้านบนซึ่งเป็นตัวใช้งานหลักในการเคี้ยว กลับมีโอกาสเสียหายได้จากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน หากไม่ดูแลอย่างถูกวิธีอาจทำให้ครอบฟันแตก เสียหาย และต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมโดยไม่จำเป็น

ต่อไปนี้คือวิธีป้องกันครอบฟันแตกบนฟันเทียมที่ PEARL DENTAL CLINIC อยากแนะนำ

สรุปดูแลรากเทียมอย่างไรให้ใช้งานได้ยาวนาน

1. เลือกใช้วัสดุครอบฟันที่เหมาะกับตำแหน่งและแรงบดเคี้ยว

วัสดุที่ใช้ทำครอบฟันมีหลายประเภท เช่น พอร์ซเลนทั้งชิ้น (all-ceramic) พอร์ซเลนหลอมโลหะ (PFM) หรือเซอร์โคเนีย ซึ่งแต่ละแบบมีคุณสมบัติต่างกัน การเลือกวัสดุให้เหมาะกับตำแหน่งการใช้งาน โดยเฉพาะตำแหน่งที่ต้องรับแรงบดเคี้ยวมาก เช่น ฟันกราม จะช่วยลดโอกาสครอบฟันแตกลงได้อย่างมาก 

2. ใส่เฝือกสบฟันในกรณีมีพฤติกรรมกัดฟัน

หากคุณมีปัญหากัดฟันตอนนอนโดยไม่รู้ตัว (Bruxism) การใส่เฝือกสบฟันขณะนอนหลับสามารถช่วยป้องกันแรงกดทับที่มากเกินไปบนครอบฟัน Dental implant ได้ โดยเฝือกสบฟันจะทำหน้าที่รองรับแรงบด ลดการเสียดสีของฟัน และช่วยยืดอายุการใช้งานของทั้งครอบฟันและรากฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. ตรวจเช็กการสบฟันเป็นระยะ

แม้จะฝังรากมาเรียบร้อยแล้ว การตรวจติดตามผลเป็นระยะก็ยังคงสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องการสบฟัน เพราะหากมีการเปลี่ยนแปลงหรือฟันซี่อื่นๆ มีการเคลื่อนตัว อาจทำให้ครอบฟันบนรับแรงเคี้ยวในมุมที่ผิด ส่งผลให้เกิดการแตกร้าวได้ง่ายกว่าปกติ 

4. หลีกเลี่ยงอาหารแข็ง เหนียว หรือแข็งเกินไป

แม้ครอบฟันบนรากฟันเทียมจะถูกออกแบบมาให้ทนทาน แต่ก็ไม่ควรใช้งานหนักเกินไป เช่น การกัดน้ำแข็ง กัดกระดูก หรือเคี้ยวลูกอมแข็งบ่อยๆ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้ครอบฟันแตกได้ง่ายขึ้น ดังนั้นการเลือกอาหารที่ไม่กระทบกับวัสดุของครอบฟันและลดพฤติกรรมเสี่ยง จะช่วยยืดอายุการใช้งานของ Dental implant ได้อย่างมาก

PEARL DENTAL CLINIC ดูแลครบทุกขั้นตอนรากเทียม

ที่ PEARL DENTAL CLINIC เรามีทีมทันตแพทย์เฉพาะทางด้านรากฟันเทียมที่ให้ความสำคัญตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผน ไปจนถึงการออกแบบและครอบฟันให้สอดคล้องกับสภาพช่องปากของผู้รับบริการอย่างแม่นยำ โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องใส่ครอบฟันเพิ่มเติม

เราใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการออกแบบและผลิตครอบฟันให้พอดีกับ รากฟันเทียม ทั้งในด้านรูปร่าง ความแข็งแรง และการสบฟันที่ถูกต้อง ช่วยลดความเสี่ยงของการแตกร้าวหรือหลุดหลวมในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ เรายังเน้นการดูแลหลังการรักษาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการวางแผนการตรวจติดตามผลอย่างครอบคลุม ตั้งแต่การเช็กการยึดเกาะของครอบฟัน การตรวจการสบฟัน ไปจนถึงการให้คำแนะนำรายบุคคลเกี่ยวกับการดูแลความสะอาดช่องปาก การเลือกอาหาร และพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อยืดอายุการใช้งานของรากเทียมและครอบฟันได้ในระยะยาวอย่างมั่นใจ

Facebook
Twitter
Email
X

บทความล่าสุด

นัดเพื่อปรึกษาทันตแพทย์

เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์
เวลาทำการ 9.30 – 20.00 น.

ที่อยู่ : 316  โครงการ J Space ตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ 

แผนที่ : Pearl Dental Clinic