Home » การทำฟันทั้งปากด้วยรากเทียม ต้องวางแผนอย่างไร

การประเมินคุณภาพเหงือกก่อนทำรากเทียม มีอะไรบ้าง

การใส่รากเทียม (Dental implant) เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะสามารถทดแทนฟันที่สูญเสียไปได้อย่างเป็นธรรมชาติทั้งในแง่ของความสวยงามและการใช้งาน แต่ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการติดตั้งรากฟันเทียมหนึ่งขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้ามคือ “การประเมินคุณภาพของเหงือก” เพราะสุขภาพของเหงือกมีผลโดยตรงต่อความสำเร็จของการฝังรากฟันแบบเทียมในครั้งนี้

ทำไมสุขภาพเหงือกจึงสำคัญต่อความสำเร็จของการใส่รากเทียม

เมื่อพูดถึงการทำรากเทียมหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่หลายคนอาจไม่ทราบคือ “สุขภาพของเหงือก” ที่มีบทบาทโดยตรงต่อการยึดเกาะของรากฟันในช่องปาก เพราะหากเหงือกมีความแข็งแรงและอยู่ในสภาพสมบูรณ์จะช่วยโอบอุ้มรากฟันได้อย่างแนบแน่น แถมยังช่วยลดการเคลื่อนไหวของรากขณะใช้งานพร้อมกับป้องกันการติดเชื้อบริเวณรอยต่อระหว่างเหงือกกับรากที่ฝังไว้ นอกจากนี้เหงือกที่แน่นและหนาพอ ยังมีบทบาทในการเสริมสร้างความสวยงามของรอยยิ้มหลังการปลูกรากอีกด้วย

ความเสี่ยงของการทำรากเทียมโดยไม่ตรวจสุขภาพเหงือกก่อน

หลายคนอาจคิดว่าการทำรากเทียมเป็นเพียงการฝังรากลงไปในกระดูกขากรรไกรเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว การตรวจสภาพเหงือกก่อนการปลูกรากก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งหากละเลยขั้นตอนนี้อาจทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงในภายหลังได้

เช่น หากผู้ป่วยมีเหงือกอักเสบเรื้อรัง หรือมีปัญหาเหงือกร่นโดยไม่รู้ตัว การฝัง Dental implant ลงไปอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ หรือรากหลวมในระยะเวลาไม่นานหลังทำ ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของราก และอาจนำไปสู่การสูญเสียรากฟันที่ฝังไปในที่สุด

ดังนั้น การเข้ารับการตรวจวิเคราะห์โดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการทำหัตถการจึงเป็นขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อความปลอดภัย ความสวยงาม และอายุการใช้งานที่ยาวนานของรากฟันที่ฝังเทียม

ขั้นตอนการประเมินสุขภาพช่องปากก่อนทำรากเทียมโดยทันตแพทย์

1. ตรวจความหนาแน่นของกระดูกเพื่อรองรับรากเทียม

กระดูกขากรรไกรที่แข็งแรงและมีความหนาแน่นเพียงพอ เป็นปัจจัยสำคัญในการติดตั้งรากฟัน เพราะหากพบว่าบริเวณดังกล่าวมีปริมาณกระดูกไม่เพียงพอ อาจต้องมีการปลูกกระดูกเพิ่มเติมก่อนการฝังรากเพื่อให้มั่นใจว่ารากจะฝังตัวได้แน่นและคงทนในระยะยาว

2. ตรวจระดับเหงือกและสุขภาพเหงือกโดยรวม

เพราะการที่เหงือกมีความแข็งแรงย่อมมีบทบาทสำคัญต่อการรองรับและปกป้องรากฟันจากการติดเชื้อและการเสื่อมสภาพในอนาคต ซึ่งทันตแพทย์จะตรวจหาสัญญาณของโรคเหงือกหรือภาวะเหงือกบางที่ทำให้การฝังรากมีความเสี่ยง

3. ประเมินสุขอนามัยช่องปากเพื่อดูแลรากฟันในระยะยาว

การดูแลสุขภาพช่องปากหลังใส่รากฟันเทียมเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้ขั้นตอนการรักษา โดยทันตแพทย์จะสอบถามพฤติกรรมของผู้ป่วยอยู่เสมอ เช่น การแปรงฟัน การใช้ไหมขัดฟัน หรือการพบทันตแพทย์ตามนัด เพื่อประเมินว่าผู้ป่วยมีวินัยเพียงพอที่จะรักษาสุขภาพของรากฟันให้อยู่ในสภาพดีในระยะยาวหรือไม่

ปัญหาเหงือกที่อาจขัดขวางการฝังรากเทียมให้สำเร็จ

1. ปัญหาเหงือกร่นและเหงือกบาง

เหงือกที่ร่นหรือบางอาจทำให้เนื้อเยื่อไม่สามารถปกป้องรากฟันได้เพียงพอ และทำให้เกิดปัญหาเรื่องการติดเชื้อหรือความไม่มั่นคงของรากในอนาคต

2. ความเสี่ยงจากโรคเหงือกอักเสบเรื้อรัง

ผู้ที่มีปัญหาโรคเหงือกเรื้อรังควรเข้ารับการรักษาก่อน เพราะหากฝังรากในสภาพที่เหงือกยังอักเสบ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อและการปฏิเสธรากโดยร่างกาย

3. การสูญเสียกระดูกที่อาจกระทบต่อการฝังรากฟัน

โรคเหงือกที่รุนแรงอาจทำให้กระดูกยึดฟันละลายจนไม่สามารถรองรับ Dental implant ได้อย่างเหมาะสม หากพบปัญหานี้ ทันตแพทย์อาจแนะนำให้ปลูกกระดูกก่อนทำการฝังรากฟัน

หากคุณกำลังพิจารณาการทำรากเทียมและต้องการการประเมินที่ครบถ้วน ปลอดภัย ได้มาตรฐาน แนะนำให้มาปรึกษาทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ PEARL DENTAL CLINIC เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณที่สุด

แนวทางการแก้ไขเหงือกก่อนเข้ารับการทำ Dental implant

ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการติดตั้งรากเทียม การเตรียมความพร้อมของช่องปากเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการรักษาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในกรณีที่มีปัญหาเหงือก หรือกระดูกบริเวณที่จะฝัง ซึ่งทันตแพทย์จะมีแนวทางในการปรับสภาพช่องปากให้เหมาะสมก่อนเริ่มขั้นตอนการปลูกอยู่เสมอ ดังนี้

1. การรักษาโรคเหงือก

หากตรวจพบภาวะเหงือกอักเสบหรือโรคเหงือกเรื้อรัง จำเป็นต้องรักษาให้หายดีก่อน เพราะสภาพเหงือกที่ไม่แข็งแรงอาจส่งผลให้รากฟันที่ฝังเทียมยึดไม่แน่นและเสี่ยงต่อการหลุดในระยะยาว

2. การปลูกกระดูก (Bone Grafting)

ในกรณีที่สูญเสียกระดูกบริเวณที่ต้องการฝังทันตแพทย์อาจแนะนำให้ปลูกกระดูกเสริมก่อนเพื่อให้มีฐานที่มั่นคงในการฝังรากฟันเทียม

3. การเสริมเหงือก (Gum Grafting)

หากเหงือกบางหรือร่น ทันตแพทย์จะใช้เทคนิคการเสริมเหงือกเพื่อให้บริเวณโดยรอบๆ รากฟันให้ดูเป็นธรรมชาติ และช่วยป้องกันการอักเสบในอนาคต

PEARL DENTAL CLINIC ผู้เชี่ยวชาญรากเทียม บริการโดยทันตแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น

ที่ PEARL DENTAL CLINIC เราใส่ใจทุกขั้นตอนเพื่อให้คุณมั่นใจในคุณภาพของรากฟันและสามารถกลับมายิ้มได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง หากคุณกำลังมองหาคลินิกที่เชี่ยวชาญด้าน รากเทียม เราคือหนึ่งในคลินิกทันตกรรมที่ได้รับความไว้วางใจด้วยทีมทันตแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ตรงในด้าน รากฟันเทียมโดยเฉพาะ พร้อมด้วยอุปกรณ์ทันสมัยและการวางแผนรักษาอย่างละเอียด เพื่อให้การฝังรากเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ทำไมต้องเลือก PEARL DENTAL CLINIC

มีทันตแพทย์เฉพาะทางด้านรากฟันเทียมที่ผ่านการอบรมทั้งในและต่างประเทศ
ใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์ภาพ 3 มิติ (3D CT Scan) เพื่อให้สามารถวางตำแหน่งรากที่ต้องการฝังได้อย่างแม่นยำ
มีการวางแผนการรักษาแบบเฉพาะบุคคล พร้อมให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด
มีบรรยากาศคลินิกสะอาด ปลอดภัย และเป็นกันเอง

หากคุณกำลังมองหาคลินิกสำหรับทำรากฟันฝังเทียมที่มีการประเมินเหงือกอย่างละเอียด PEARL DENTAL CLINIC พร้อมให้คำปรึกษาโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน Dental implant โดยเฉพาะ