Home » เปรียบเทียบรากเทียมแบบรายซี่ vs แบบ All-on-4: อะไรเหมาะกับคุณ

เปรียบเทียบรากเทียมแบบรายซี่ vs แบบ All-on-4: อะไรเหมาะกับคุณ

การสูญเสียฟันทั้งปากไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุหรือการเสื่อมสภาพตามวัย เป็นปัญหาที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก การใช้ฟันปลอมชนิดถอดได้อาจไม่ตอบโจทย์ทั้งในด้านการใช้งานและความสวยงามเสมอไป แต่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีทันตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นคือ รากเทียม (Dental Implant)

โดยเฉพาะรากฟันเทียมทั้งปากแบบ All-on-4 ซึ่งออกแบบมาสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันทั้งปาก ให้สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรับประทานอาหาร ความมั่นใจในการเข้าสังคม และการลดปัญหาฟันปลอมหลุดหรือหลวมหลังใช้งานเป็นเวลานาน

ในบทความนี้ Pearl Dental Clinic Chiang Mai เราจะพาคุณเปรียบเทียบระหว่าง รากฟันเทียมแบบรายซี่ ฟันปลอมทั่วไป และรากฟันเทียมแบบ All-on-4 เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่สุด

รากเทียมแบบ All-on-4 คืออะไร?

รากเทียมแบบ All-on-4 เป็นวิธีการปลูกรากฟันเทียมที่ช่วยแก้ไขปัญหาการสูญเสียฟันทั้งปาก ด้วยการติดฟันปลอมชนิดติดแนนทั้งปาก โดยทันตแพทย์จะใช้สกรูเพื่อยึดระหว่างฟันปลอมเข้ากับแกนรากเทียมที่ฝังลงไปบริเวณกระดูกขากรรไกร

หลักการทั่วไปของการรักษาราก Dental Implant ด้วยระบบ All-on-4 จะเป็นการทดแทนฟันปลอมแบบถาวรในขากรรไกรเดียวด้วยการใช้อุปกรณ์เพียง 4 ราก (สามารถใส่ได้สูงสุด 6 ชิ้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทันตแพทย์พิจารณาความสมบูรณ์ของกระดูก)

โดยอุปกรณ์จะถูกฝังในตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อรองรับฟันทั้งปาก ส่วนใหญ่ 2 ราก ด้านหลังจะถูกฝังทำมุมเอียงมาทางด้านหน้า 45 องศา เพื่อให้ฐานแข็งแรงและมีความสามารถในการรองรับแรงบดเคี้ยวจากฟันซี่หน้า ทำให้รากเทียมมีความมั่นคงและมีการกระจายแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เหตุผลที่ต้องเลือกฝังรากเทียมด้วยเทคโนโลยี All-on-4

เทคนิคใหม่ที่มีความทันสมัย: All-on-4 ช่วยให้การปลูกรากฟันเทียมเป็นการผ่าตัดที่ง่าย ราบรื่น และมีประสิทธิภาพ
ใช้เวลารวดเร็วและเกิดความคุ้มค่าในระยะยาว: ใช้เวลาน้อยกว่าการปลูกรากเทียมแบบเดิม และสามารถลดค่าใช้จ่ายแทนการปลูกทีละราก การทำหัตถการไม่ซับซ้อนเท่าแบบรายซี่
ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ: ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่คุ้มค่าและน่าทึ่ง เพราะผลลัพธ์ที่ได้ช่วยให้ผู้ป่วยกลับมายิ้มได้อย่างมั่นใจ และเคี้ยวอาหารได้สะดวกเหมือนฟันธรรมชาติ

การรักษารากเทียมแบบ All-on-4 เหมาะกับใครบ้าง?

ผู้ที่ต้องการลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการรักษา
ผู้ที่สูญเสียฟันทั้งปากจากอุบัติเหตุหรือการเสื่อมสภาพตามวัย
ผู้สูงอายุที่มีปัญหาสุขภาพไม่เอื้อต่อการผ่าตัดใหญ่ วิธีนี้จะเป็นการผ่าตัดที่เจ็บน้อยกว่า
ผู้ที่มีปัญหากระดูกขากรรไกรบางแต่ยังเพียงพอต่อการรองรับรากฟันเทียม
ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูฟันที่สูญเสียไปด้วยรูปแบบที่ใกล้เคียงธรรมชาติ ทั้งการเคี้ยว การพูด รูปลักษณ์ภายนอก รวมถึงผิวสัมผัส
ผู้ที่ไม่ต้องการใช้ฟันปลอมชนิดถอดได้ เพราะการทำรากเทียม All-on-4 เป็นวิธีทดแทนฟันทั้งปากชนิดติดแน่น

ข้อดี-ข้อเสีย ข้อเปรียบเทียบของรากฟันเทียมและฟันปลอมแต่ละแบบ

รูปแบบการทำฟันปลอม	ข้อดี	ข้อจำกัด
1.ฟันปลอมทั้งปากชนิดถอดได้	ราคาย่อมเยาที่สุด ทำความสะอาดง่าย ถอดเข้า-ออกเฉพาะบางเวลาที่ต้องการใส่ได้	ฟันปลอมชนิดถอดได้ หลายคนมีปัญหาเรื่องการถอดแล้วลืมหรือทำหาย มีโอกาสหลวมหรือหลุดเวลาพูดคุย
2.รากฟันเทียมทีละซี่ หรือ 1 ซี่	เหมาะกับผู้สูญเสียฟันบางซี่ ลดโอกาสเกิดฟันล้ม หรือการเคลื่อนตัวของฟันซี่ข้างเคียง ฟันปลอมชนิดติดแน่น ไม่ต้องถอดเข้า-ออก ไม่ต้องกังวลหรือกลัวลืมบ่อย ๆ	ไม่เหมาะกับการสูญเสียฟันทั้งปากหรือหลาย ๆ ตำแหน่ง ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น เบาหวาน
3.รากเทียมระบบ All-on-4	สามารถใส่ฟันปลอมแบบติดแน่นได้ หลังผ่าตัดรากฟันเทียม เทคนิคที่ใช้เวลาน้อยกว่าและราบรื่นกว่าการทำรากฟันเทียมแบบอื่น ๆ ให้ผลลัพธ์ที่มั่นคงและแข็งแรง	ดูแลรักษาความสะอาดใต้ฟันปลอม เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีเศษอาหารติด ป้องกันปัญหาสุขภาพเหงือกและกระดูกที่อาจตามมา ระยะเวลาการรักษานานประมาณ 3-6 เดือน

6 ขั้นตอนการทำรากเทียมกับ Pearl Dental Clinic Chiang Mai

ลงทะเบียนเพื่อปรึกษาและวางแผนการรักษารากเทียมกับทันตแพทย์ฟรี ลงทะเบียน
ตรวจสุขภาพช่องปากด้วย X-ray หรือ CT scan เพื่อวางแผนการรักษาอย่างแม่นยำ หรือวางแผนปลูกกระดูกรองรับฟัน (กรณีที่จำเป็น)
นัดหมายทำการผ่าตัดฝังรากเทียมลงในกระดูกขากรรไกร ใช้เวลารอรากเทียมและกระดูกสมานกันประมาณ 3-6 เดือน
หลังจากแผลสมานกัน แพทย์จะนัดหมายติดตั้งแกนเชื่อมรากฟันเทียมกับครอบฟัน หรือฟันปลอม
ติดครอบฟันหรือฟันปลอมที่ออกแบบมาให้เข้ากับฟันธรรมชาติของผู้ป่วย สามารถใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ทันตแพทย์ปรับการกัดหรือสบฟันให้เหมาะสม เพื่อความสะดวกในการบดเคี้ยวหรือพูดคุยได้คล่องเป็นไปตามคาดหวังของผู้ป่วยมากที่สุด

รากฟันเทียมแบบ All-on-4 และ รากฟันเทียมแบบรายซี่ มีความเหมาะสมแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการและปัญหาฟันผู้ป่วย หากคุณสูญเสียฟันทั้งปากและต้องการการแก้ปัญหาที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ All-on-4 เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องความมั่นคง ความสวยงาม และค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่า

สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาการปลูก รากเทียม สามารถรับคำปรึกษาและคำแนะนำจากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ฟรี ที่ Pearl Dental Clinic Chiang Mai คลินิกมาตรฐานที่พร้อมมอบผลลัพธ์การรักษาที่ดีที่สุด ในราคาสุดคุ้มที่คุณมั่นใจได้