PEARL DENTAL CLINIC

สะพานฟัน คืออะไร ต่างจากรากเทียมยังไง

การปลูกกระดูกฟันก่อนทำรากฟันเทียม จำเป็นหรือไม่

หลายคนที่กำลังสนใจเรื่องการทำฟันปลอมหรือรากเทียมอาจคิดว่าเป็นเรื่องของผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง การสูญเสียฟันเกิดได้กับทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเพราะอุบัติเหตุ หรือปัญหาสุขภาพช่องปากอย่างฟันผุรุนแรงที่จำเป็นต้องถอนฟัน เมื่อเกิดปัญหานี้ ทางเลือกยอดนิยมที่มักได้ยิน คือ “สะพานฟัน” และ “รากเทียม” (หรือที่เรียกอีกชื่อว่ารากฟันเทียม หรือ Dental Implant) ซึ่งเป็นฟันปลอมแบบติดแน่นที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กลับคืนมา บทความในวันนี้ Pearl Dental Clinic จะพาคุณไปเจาะลึกข้อดี-ข้อจำกัด และเปรียบเทียบระหว่างสองวิธีการนี้ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุด

สารบัญเนื้อหา

ฟันปลอมชนิดติดแน่น “รากเทียม”

รากเทียม (Dental Implant) คือ วัสดุที่มีรูปร่างคล้ายรากฟัน ผลิตจากไทเทเนียม (Titanium) ซึ่งมีความปลอดภัยสูงและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ใช้สำหรับฝังลงไปในตำแหน่งเดิมเพื่อทดแทนฟันที่สูญเสียไป หลังจากฝังรากฟันเทียม ทันตแพทย์จะออกแบบครอบฟันให้มีรูปร่างและสีใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด พร้อมใส่ครอบฟันบนรากเทียมเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถใช้งานฟันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการบดเคี้ยวอาหาร การพูดที่ชัดเจน และการสร้างความมั่นใจในชีวิตประจำวัน

ข้อดีของการทำรากเทียม

  • มีลักษณะใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด
  • เป็นฟันปลอมชนิดติดแน่น ไม่ต้องถอดเข้า-ออก สะดวกต่อการใช้งาน 
  • ในกรณีเลือกใช้ฟันปลอมแบบถอดได้ การทำรากเทียมช่วยเพิ่มความแน่นกระชับและความสบายขณะใช้งาน
  • ไม่จำเป็นต้องกรอเนื้อฟันข้างเคียง ลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง เช่น อาการปวดหรือเสียวฟัน
  • ช่วยป้องกันการละลายของกระดูกขากรรไกร
  • มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากกว่า 10 ปี คุ้มค่าในระยะยาว

ข้อจำกัดของการทำรากเทียม

  • เป็นวิธีการรักษาที่มีค่าใช้จ่ายสูงที่สุดเมื่อเทียบกับทางเลือกอื่นในการทำฟันปลอม
  • ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีไม่สามารถทำรากเทียมได้ เนื่องจากกระดูกขากรรไกรยังเจริญเติบโตไม่สมบูรณ์เหมือนวัยผู้ใหญ่
  • ขั้นตอนการรักษาต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป เพื่อให้วัสดุรากฟันเทียมยึดติดกับกระดูกอย่างมั่นคงก่อนเริ่มทำครอบฟัน
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวซึ่งควบคุมอาการไม่ได้ เช่น โรคเบาหวาน, โรคปริทันต์อักเสบขั้นรุนแรง, ข้ออักเสบขั้นรุนแรง, โรคไฮเปอร์ไทรอยด์ หรือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการควบคุมกล้ามเนื้อ เป็นต้น

ฟันปลอมชนิดติดแน่น “สะพานฟัน”

สะพานฟัน (Dental Bridges) เป็นฟันปลอมชนิดติดแน่นที่อาศัยฟันธรรมชาติข้างเคียงเป็นฐาน โดยการกรอฟันข้างเคียงทั้งสองฝั่งให้เล็กลงเพื่อใส่ครอบฟัน (สะพาน) ทดแทนฟันที่สูญเสียไป

ฟันปลอมชนิดนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทดแทนฟันที่สูยเสียไปตั้งแต่ 1-2 ซี่ ยังมีฟันข้างเคียงทั้งสองฝั่งที่แข็งแรงและไม่ต้องการการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม การทำสะพานฟันจำเป็นต้องกรอฟันธรรมชาติทั้งสองด้านเพื่อใช้เป็นฐานยึดสะพานฟันให้มั่นคง

ข้อดีของการทำสะพานฟัน

  • ช่วยให้การสบฟันกลับมาเป็นปกติ เพิ่มความมั่นใจในการใช้งานฟัน
  • ไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่กังวลเกี่ยวกับขั้นตอนการรักษาที่ซับซ้อน
  • ฟันปลอมชนิดติดแน่น ใช้งานสะดวก ไม่ต้องถอดเข้า-ออก ลดความเสี่ยงเรื่องการหลุดหายหรือแตกหัก สามารถใช้งานได้ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ
  • ใช้ระยะเวลาในการรักษาน้อย เพียง 7-14 วัน เร็วกว่าการทำรากฟันเทียม
  • ราคาย่อมเยากว่าการปลูกรากเทียม (Dental Implant)
  • ช่วยกระจายแรงบดเคี้ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการใช้งานฟันซี่ใดซี่หนึ่งมากเกินไป ซึ่งอาจช่วยป้องกันปัญหาฟันในอนาคตได้

ข้อจำกัดของการทำสะพานฟัน

  • จำเป็นต้องกรอเนื้อฟันธรรมชาติทั้งสองฝั่งที่อยู่ติดกับช่องว่างของฟันที่สูญเสียไป
  • หากมีการกรอเนื้อฟันมากเกินไปอาจทำให้ผู้ป่วย โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ มีความเสี่ยงต่อปัญหาเสียวฟันหรือปวดฟันในอนาคต
  • ไม่สามารถทำความสะอาดด้วยไหมขัดฟันแบบปกติได้ ต้องใช้ไหมขัดฟันชนิดพิเศษในการร้อยใต้สะพานฟัน
  • อายุการใช้งานของสะพานฟันขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของฟันทั้งสองซี่ที่เป็นฐานยึด
  • หากฟันฐานทั้งสองฝั่ง หรือซี่ใดซี่หนึ่งผุ อาจต้องรื้อสะพานฟันและทำใหม่ทั้งชุด

รากฟันเทียม VS สะพานฟัน แบบไหนเหมาะกับใคร

รากฟันเทียมเหมาะกับใคร

ผู้ที่ต้องการฟันปลอมที่มีความทนทานและดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีสุขภาพช่องปากดี มีกระดูกในบริเวณที่ต้องการฝังรากเทียมปริมาณเพียงพอ และไม่มีโรคประจำตัวหรือข้อห้ามในการผ่าตัด โดยทั่วไปทันตแพทย์จะเริ่มจากการประเมินสุขภาพช่องปากอย่างละเอียดด้วย CT Scan แบบ 3 มิติ ก่อนเริ่มการรักษา

แต่ไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น โรคเบาหวาน, โรคกระดูกพรุนชนิดรุนแรง, ผู้ที่เคยรับการรักษามะเร็งด้วยการรังสีบำบัด, ผู้ที่สูบบุหรี่จัด, ผู้ที่ใช้ยาในกลุ่ม Bisphosphonate หรือผู้ที่มีภาวะอันตรายอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อการรักษารากเทียม

สะพานฟันเหมาะกับใคร

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟันปลอมแบบเร่งด่วน มีงบประมาณจำกัด หรือมีโรคประจำตัวที่เป็นข้อห้ามในการผ่าตัด และยังมีฟันข้างเคียงที่แข็งแรงเพียงพอสำหรับใช้เป็นฐานรองรับสะพานฟัน

แต่จะไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีฟันข้างเคียงที่ผุรุนแรง สูญเสียเนื้อฟันไปมาก หรือมีฟันโยก เนื่องจากฟันอาจไม่แข็งแรงพอที่จะเป็นฐานยึดสะพานฟัน นอกจากนี้ ยังไม่แนะนำสำหรับการทดแทนฟันที่สูญเสียตั้งแต่ 3 ซี่ขึ้นไป เพราะฟันหลักที่ใช้เป็นฐานจะต้องรับน้ำหนักมากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลให้ฟันได้รับความเสียหายในภายหลัง

ทั้ง รากเทียม และสะพานฟันเป็นฟันปลอมแบบติดแน่นที่ช่วยฟื้นฟูความมั่นใจและประสิทธิภาพในการใช้งานของฟัน ทำให้คุณสามารถบดเคี้ยวอาหาร พูดคุย และออกเสียงได้อย่างมั่นใจ การเลือกวิธีการที่เหมาะสมควรพิจารณาจากสุขภาพช่องปาก งบประมาณ และความต้องการระยะยาว หากคุณต้องการฟันที่ทนทานและใกล้เคียงฟันธรรมชาติมากที่สุด รากเทียมคือทางเลือกที่ดีที่สุด แต่หากคุณต้องการวิธีที่รวดเร็วและประหยัดกว่า สะพานฟันอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม Pearl Dental Clinic ยินดีให้คำปรึกษาเกี่ยวกับทุกปัญหาฟันในงบประมาณที่คุณสามารถเข้าถึงได้

Facebook
Twitter
Email
X

บทความล่าสุด

นัดเพื่อปรึกษาทันตแพทย์

เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์
เวลาทำการ 9.30 – 20.00 น.

ที่อยู่ : 316  โครงการ J Space ตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ 

แผนที่ : Pearl Dental Clinic