Home » คู่มือฉบับสมบูรณ์การดูแลรากเทียมให้อยู่ได้นาน 20 ปี

คู่มือฉบับสมบูรณ์การดูแลรากเทียมให้อยู่ได้นาน 20 ปี

รากเทียม (Dental Implant) คือทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูฟันที่สูญเสียไป ให้กลับมาใช้งานได้อย่างมั่นใจ แข็งแรง และดูเป็นธรรมชาติ แต่จะทำอย่างไรให้รากฟันเทียมแข็งแรงและอยู่ได้นานถึง 20 ปีขึ้นไป มาดูวิธีการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง เพื่อให้รากฝังเทียมของคุณคงทนและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รากเทียมคืออะไร? เข้าใจหลักการทำงานของ (Dental implant)

รากเทียม (Dental Implant) เป็นวิธีการทดแทนฟันที่สูญเสียไปโดยใช้วัสดุไทเทเนียมหรือเซรามิกที่ฝังลงในกระดูกขากรรไกร ทำหน้าที่เป็นรากฟันเทียมที่แข็งแรง ก่อนจะครอบด้วยฟันปลอมที่ดูเป็นธรรมชาติ

เมื่อเทียบกับฟันปลอมแบบถอดได้หรือสะพานฟัน สิ่งนี้จะมีความแข็งแรงกว่า ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติที่สุด และสามารถอยู่ได้นานถึง 20 ปีหรือมากกว่านั้น หากได้รับการดูแลที่ถูกต้อง

รากเทียมทำงานอย่างไร?

การทำรากเทียม (Dental Implant) เป็นกระบวนการทดแทนฟันที่สูญเสียไปโดยใช้วัสดุที่เข้ากับร่างกายได้ดี ฝังเข้าไปในกระดูกขากรรไกร เพื่อให้สามารถรองรับการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โครงสร้างของรากฟันเทียมประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญ ได้แก่

รากฟันเทียม (Implant Post)
เป็นส่วนที่ฝังลงไปในกระดูกขากรรไกร ทำหน้าที่แทนรากฟันธรรมชาติ โดยวัสดุที่ใช้มักเป็น ไทเทเนียมเกรดทางการแพทย์ ซึ่งมีความแข็งแรง ทนทาน และสามารถเข้ากับร่างกายได้ดี (Biocompatible) ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือการต่อต้านจากร่างกาย
แกนต่อ (Abutment)
เป็นส่วนที่ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างรากและครอบฟัน โดยทันตแพทย์จะติดตั้งแกนต่อนี้ลงบนรากหลังจากที่กระดูกขากรรไกรยึดติดกับรากเทียมอย่างสมบูรณ์แล้ว
ครอบฟัน (Crown)
เป็นฟันเทียมที่ติดอยู่ด้านบนของแกนต่อ มีลักษณะและสีใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ ทำให้สามารถใช้งานได้เหมือนฟันจริง ทั้งในด้านการบดเคี้ยวและความสวยงาม

หลักการทำงานของรากเทียม

หลังจากที่ฝังรากเทียม ลงไปในกระดูกขากรรไกร กระบวนการที่เรียกว่า Osseointegration จะเริ่มต้นขึ้น ซึ่งเป็นกระบวนการที่กระดูกขากรรไกรค่อยๆ ยึดติดกับรากเทียมอย่างแน่นหนา ทำให้เกิดความแข็งแรงและมั่นคงเหมือนรากฟันธรรมชาติ ระยะเวลาที่ใช้ในกระบวนการนี้อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพกระดูกของผู้ป่วย โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน เพื่อให้รากฟันเทียมยึดติดกับกระดูกได้อย่างสมบูรณ์

เมื่อกระบวนการ Osseointegration เสร็จสิ้น ทันตแพทย์จะติดตั้งแกนต่อ (Abutment) และทำครอบฟัน (Crown) ให้เข้ากับสีและรูปทรงของฟันเดิม เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติและสามารถใช้งานได้เหมือนฟันจริง

5 เคล็ดลับสำคัญ ดูแลรากเทียมอย่างไรให้ใช้งานได้นาน 20 ปี

ใช้วัสดุรากฟันเทียมคุณภาพสูง
รากฟันที่ผลิตจากไทเทเนียมหรือเซรามิกเกรดพรีเมียม จะช่วยลดโอกาสเกิดการอักเสบและทำให้รากฟันติดแน่นกับกระดูกได้ดี
ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีทันสมัย
ทันตแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์สูงช่วยให้กระบวนการฝังรากฟันแม่นยำ ลดโอกาสเกิดปัญหาในอนาคต พร้อมกับใช้เทคโนโลยี 3D Digital Scan และ Computer-Guided Surgery ช่วยเพิ่มความแม่นยำ ลดความเสี่ยงต่อกระดูกและเนื้อเยื่อ
ดูแลสุขภาพช่องปากที่ถูกต้อง
แปรงฟันด้วยแปรงสีฟันขนนุ่ม และใช้ไหมขัดฟันทุกวัน, หลีกเลี่ยงการใช้ฟันกัดของแข็ง เช่น น้ำแข็ง กระดูก หรือเปิดฝาขวด และใช้น้ำยาบ้วนปากที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันแบคทีเรียสะสม
หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อรากฟัน
การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้กระดูกขากรรไกรเสื่อมเร็วขึ้นและลดโอกาสที่รากจะยึดติดกับกระดูก หรือการนอนกัดฟัน (Bruxism) อาจทำให้รากฟันรับแรงกดมากเกินไป ควรใช้เฝือกสบฟันหากมีปัญหานี้
การเข้ารับการตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำ
ควรพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจเช็กสุขภาพรากฟัน ทำความสะอาด และป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

PEARL DENTAL CLINIC คลินิกชั้นนำในการให้บริการรับทำทำรากฟันเทียม

PEARL DENTAL CLINIC คลินิกทันตกรรมที่เชี่ยวชาญด้านรากเทียม (Dental Implant) ที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม ด้วยทีมทันตแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์สูง เชี่ยวชาญด้านการฝังรากฟันโดยเฉพาะ พร้อมให้คำปรึกษาอย่างละเอียดในทุกขั้นตอน นอกจากนี้เรายังใช้เทคโนโลยีทันสมัย เช่น Digital X-ray และ 3D CT Scan เพื่อช่วยให้การวางแผนการรักษามีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ส่วนในด้านของวัสดุ รากเทียม เราก็เลือกใช้เฉพาะวัสดุระดับพรีเมียม เช่น ไทเทเนียมเกรดทางการแพทย์ ซึ่งมีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทาน ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ทำให้รากของคุณสามารถใช้งานได้ยาวนาน เราให้ความสำคัญกับการดูแลใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่กระบวนการผ่าตัดฝังรากไปจนถึงการติดตามผลหลังทำ เพื่อให้คุณมีสุขภาพช่องปากที่ดีและสามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจ

นอกจากนี้ PEARL DENTAL CLINIC ยังให้บริการในราคาสมเหตุสมผล พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ ผ่อน 0% ได้นานสูงสุด 10 เดือน เพื่อให้คุณได้รับการรักษาที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องกังวลเรื่องงบประมาณ เราพร้อมช่วยให้คุณกลับมายิ้มอย่างมั่นใจ เคี้ยวอาหารได้สะดวก และมีสุขภาพฟันที่แข็งแรงในระยะยาว ติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาฟรี และจองคิวได้แล้ววันนี้