Home » เปรียบเทียบ รากเทียมแบบรากเดียว vs สะพานฟัน ต่างกันอย่างไร
หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาการสูญเสียฟัน ฟันหลอ และกำลังมองหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสม รากเทียม (Dental Implant) ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความนิยม เพราะช่วยคืนความมั่นใจในการใช้งานฟันได้ใกล้เคียงกับธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจยังลังเลระหว่างการทำ Dental Implant กับการทำสะพานฟันว่าทางเลือกไหนตอบโจทย์ทั้งในด้านการใช้งานและงบประมาณมากกว่ากัน ในบทความนี้ Pearl Dental Clinic Chiang Mai จะพาคุณมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับรากฟันเทียม เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของแต่ละวิธี และแนะนำแนวทางการเลือกทันตกรรมที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด
สะพานฟันหรือครอบฟันหลาย ๆ ซี่ที่ติดกัน ออกแบบมาเพื่อทดแทนฟันที่สูญเสียไป โดยไม่ต้องถอดเข้า-ออก วิธีการทำจะต้องกรอฟันซี่ข้างเคียงทั้งสองด้านให้เป็นฐานรองรับสะพานฟัน ซึ่งหมายความว่าฟันที่อยู่ติดกันต้องมีความแข็งแรงและสมบูรณ์เพียงพอเพื่อรองรับการใช้งาน
การทำสะพานฟันมี 3 ขั้นตอนหลัก ดังนี้
รากเทียม (Dental Implant) เป็นวิธีการทดแทนฟันที่สูญเสียไป โดยใช้การผ่าตัดฝังรากฟันเทียมลงในกระดูกขากรรไกร เพื่อให้สามารถรองรับฟันปลอมได้อย่างมั่นคงและแข็งแรง ทันตแพทย์จะออกแบบและสั่งทำฟันปลอม ด้วยการเลือกวัสดุให้เหมาะสมกับสีฟัน ลักษณะการใช้งานของแต่ละบุคคล จากนั้นนำมาติดตั้งบนรากเทียมที่ฝังไว้ เพื่อช่วยให้สามารถบดเคี้ยวอาหาร พูดได้อย่างเป็นธรรมชาติ และเสริมสร้างความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน
1.ปลูกรากเทียมแบบเดี่ยว (Single Dental Implant)
เป็นการปลูกรากฟันเทียม 1 รากต่อ 1 ตำแหน่ง ซึ่งสามารถทำได้หลายตำแหน่งในช่องปาก ตามความจำเป็นของผู้ป่วย วิธีนี้ใช้การผ่าตัดฝังรากเทียมลงในกระดูกขากรรไกรโดยตรง ไม่ต้องกรอฟันซี่ข้างเคียงเหมือนกับการทำสะพานฟัน ทำให้สามารถดูแลความสะอาดได้ง่ายกว่า หลังติดตั้งแล้วจะช่วยให้สามารถบดเคี้ยวอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ วัสดุมีความแข็งแรงทนทานคล้ายฟันธรรมชาติ สามารถเลือกเฉดสีให้กลมกลืนกับฟันจริง และเป็นฟันปลอมแบบติดแน่นถาวรไม่ต้องถอดเข้า-ออก
2.ปลูกรากเทียมแบบหลายซี่ (Implant-Supported Bridge)
เป็นวิธีที่ใช้ในการทดแทนฟันที่สูญเสียไปหลายซี่ติดกัน หรือมากกว่า 1 ซี่ โดยใช้ การผ่าตัดฝังรากเทียม และติดตั้งสะพานฟันที่ยึดกับรากฟันเทียมโดยตรง ซึ่งมีแกนฟันเชื่อมต่อระหว่างรากเทียมและสะพานฟัน ข้อดีของวิธีนี้คือไม่ต้องกรอฟันข้างเคียง เหมือนกับการทำสะพานฟันแบบปกติ ช่วยรักษาเนื้อฟันธรรมชาติที่สมบูรณ์ให้คงอยู่ ลดการสูญเสียโครงสร้างฟันที่แข็งแรง
3.ปลูกรากเทียมทั้งปาก (Implant-Retained Denture)
เป็นวิธีการรักษาสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันทั้งปาก ไม่ว่าจะเกิดจากปัญหาสุขภาพหรืออุบัติเหตุ โดยจะทำการติดตั้ง รากเทียมในตำแหน่งที่เหมาะสมบนแนวเหงือกทั้งด้านบนและด้านล่าง เพื่อรองรับฟันปลอมทั้งชุด ปัจจุบันมีเทคนิคการฝังรากฟันเทียมที่ช่วยลดจำนวนรากที่ต้องฝัง เช่น เทคนิค All-on-4 และ All-on-6 ซึ่งช่วยให้ฟันปลอมติดแน่น แข็งแรง และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งรากฟันเทียมและสะพานฟัน ต่างก็เป็นวิธีทดแทนฟันที่สูญเสียไป ซึ่งมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน การเลือกวิธีที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสภาพฟัน งบประมาณ และความต้องการของแต่ละบุคคล หากคุณต้องการทางเลือกที่แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้ใกล้เคียงฟันธรรมชาติ รากเทียม อาจเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ ในขณะที่สะพานฟันเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูการบดเคี้ยวและมีข้อจำกัดด้านกระดูกขากรรไกร
Pearl Dental Clinic Chiang Mai พร้อมให้คำปรึกษาและออกแบบการรักษาที่เหมาะสมกับคุณโดยทันตแพทย์เฉพาะทาง เทคโนโลยีที่ทันสมัยและการดูแลที่ใส่ใจ เพื่อให้คุณกลับมายิ้มอย่างมั่นใจอีกครั้ง โปรโมชันพิเศษวันนี้ทันตกรรม Dental Implant เพียง 29,000 บาทต่อซี่ (จากราคาปกติ 35,000 บาทต่อซี่) พร้อมโปรแกรมผ่อนนาน 0% (10 เดือน) และแผนแบ่งชำระสูงสุด 3 งวด
บทความล่าสุด
ทำฟัน ประกันสังคม 900 บาท ไม่ต้องสำรองจ่าย ที่ PEARL DENTAL CLINIC
เทคนิคการดูแลรากเทียมด้วยตัวเองที่บ้าน ให้อยู่ได้ยาวนาน
นัดเพื่อปรึกษาทันตแพทย์
เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์
เวลาทำการ 9.30 – 20.00 น.
ที่อยู่ : 316 โครงการ J Space ตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
แผนที่ : Pearl Dental Clinic