PEARL DENTAL CLINIC

การวัดความหนาแน่นกระดูกก่อนทำรากฟันเทียม สำคัญอย่างไร

การวัดความหนาแน่นกระดูกก่อนทำรากฟันเทียม สำคัญอย่างไร

เมื่อพูดถึงการทำรากฟันเทียม (Dental implant) หลายคนอาจนึกถึงเพียงขั้นตอนการฝังรากเทียมลงไปแทนที่ฟันที่สูญเสีย แต่ทราบหรือไม่ว่า “ความแข็งแรงของกระดูกขากรรไกร” เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อความสำเร็จของการรักษา

การวัดความหนาแน่นของกระดูกก่อนทำรากฟันเทียม (Dental implant) คืออะไร

การวัดความหนาแน่นของกระดูกก่อนทำรากเทียม (Dental implant) เป็นกระบวนการที่ช่วยให้ทันตแพทย์ประเมินสภาพกระดูกว่ามีเพียงพอสำหรับการรองรับได้หรือไม่ ซึ่งหากพบว่ากระดูกบางหรือไม่แข็งแรง อาจต้องมีการเสริมกระดูกเพื่อให้รากสามารถยึดติดได้อย่างมั่นคง และลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว

สารบัญเนื้อหา

ทำไมต้องตรวจวัดกระดูกก่อนทำรากฟันเทียม

การทำรากฟันเทียม (Dental implant) เป็นทางเลือกที่ช่วยทดแทนฟันที่สูญเสียไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก่อนเข้ารับการรักษา สิ่งสำคัญที่ต้องตรวจสอบคือ ความหนาแน่นของกระดูกขากรรไกร เนื่องจากกระดูกเป็นฐานที่รองรับ หากกระดูกไม่แข็งแรงหรือมีปริมาณไม่เพียงพอ อาจทำให้การฝังรากล้มเหลวหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนในภายหลัง

เหตุผลที่ต้องวัดความหนาแน่นของกระดูกก่อนทำ

  1. เพื่อประเมินสภาพกระดูก  ตรวจสอบว่ามีความหนาและความแข็งแรงเพียงพอหรือไม่
  2. ลดความเสี่ยงของการล้มเหลว โดยกระดูกที่อ่อนแออาจทำให้รากฟันไม่สามารถยึดติดได้ดี
  3. วางแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำ เพราะหากพบว่ากระดูกไม่เพียงพอ ทันตแพทย์สามารถแนะนำการเสริมกระดูกได้เลยก่อนทำ
  4. ช่วยให้รากฟันมีอายุการใช้งานยาวนาน เนื่องจากกระดูกที่แข็งแรงช่วยให้รากเทียมมั่นคง ลดปัญหาการโยกหรือหลุด

วิธีตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูกก่อนทำรากฟันเทียม

การตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูกขากรรไกรมีหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีช่วยให้ทันตแพทย์สามารถประเมินปริมาณและคุณภาพของกระดูกได้อย่างแม่นยำก่อนการทำรากฟันเทียม โดยมีวิธีการวัด ดังนี้

  1. เอกซเรย์พาโนรามา (Panoramic X-ray) เป็นการเอกซเรย์แบบกว้างที่ช่วยให้เห็นโครงสร้างของกระดูกขากรรไกร ฟัน และบริเวณโดยรอบ เหมาะสำหรับการประเมินเบื้องต้นว่ากระดูกมีความหนาพอสำหรับการฝังรากฟันเทียมหรือไม่
  2. เอกซเรย์ซีทีสแกน (CT Scan หรือ CBCT – Cone Beam Computed Tomography) เป็นเทคนิคที่ให้ภาพสามมิติของกระดูกขากรรไกร ช่วยให้ทันตแพทย์สามารถวิเคราะห์ความหนาแน่นของกระดูกในรายละเอียดลึกขึ้น รวมถึงตรวจสอบเส้นประสาทและโพรงไซนัส ซึ่งมีผลต่อการวางแผนฝังราก
  3. การตรวจวัดด้วยเครื่อง Densitometer เป็นอุปกรณ์เฉพาะทางที่ช่วยประเมินค่าความหนาแน่นของกระดูกโดยตรง ทำให้ทราบถึงคุณภาพของกระดูกว่ามีความแข็งแรงเพียงพอหรือไม่
  4. การตรวจด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ (Ultrasound Bone Densitometry) ใช้คลื่นเสียงในการตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เห็นโครงสร้างของกระดูกโดยไม่ต้องใช้รังสี

แต่การจะเลือกใช้วิธีใดในการเช็คนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทันตแพทย์และความจำเป็นของแต่ละบุคคล หากพบว่ากระดูกขากรรไกรไม่แข็งแรงพอ อาจต้องมีการเสริมกระดูกก่อนการฝังรากเทียม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและยืดอายุการใช้งานของรากฟันเทียม

ใครบ้างที่ควรตรวจความหนาแน่นของกระดูกก่อนทำรากเทียม

การทำรากฟันเทียม (Dental implant) เป็นวิธีการทดแทนฟันที่สูญเสียไปอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก่อนเข้ารับการรักษา การตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูกขากรรไกร เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้มั่นใจว่ากระดูกสามารถรองรับรากได้ดี

กลุ่มคนที่ควรได้รับการตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูก ได้แก่

  1. ผู้ที่สูญเสียฟันมานาน
  2. ผู้ที่มีภาวะกระดูกบางหรือกระดูกพรุน
  3. ผู้ที่เคยเป็นโรคเหงือกอักเสบรุนแรง (Periodontitis)
  4. ผู้ที่เคยถอนฟันโดยไม่มีการดูแลกระดูกขากรรไกรที่เหมาะสม
  5. ผู้ที่ต้องการให้รากฟันมีอายุการใช้งานยาวนาน

หากคุณอยู่ในกลุ่มเหล่านี้ ควรเข้ารับการตรวจวัดกระดูกขากรรไกรก่อนทำ เพื่อให้มั่นใจว่าการรักษาจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

กระดูกขากรรไกรบางเกินไป ต้องทำอย่างไรให้ฝังรากฟันเทียมได้

หากพบว่ากระดูกขากรรไกรมีปริมาณไม่เพียงพอหรือความหนาแน่นไม่เหมาะสมสำหรับการฝังรากฟันเทียม ไม่ต้องกังวล PEARL DENTAL CLINIC เรามีทางออกที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูกให้คุณสามารถทำรากเทียมได้อย่างมั่นคงและปลอดภัยอีกครั้ง

  1. วิธีการปลูกกระดูกขากรรไกร (Bone Grafting) เป็นการเสริมกระดูกในบริเวณที่ต้องการฝังราก โดยอาจใช้กระดูกของตัวเอง (Autograft) กระดูกจากแหล่งอื่น (Allograft หรือ Xenograft) หรือวัสดุสังเคราะห์ เพื่อเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก
  2. วิธีการยกไซนัส (Sinus Lift) หากต้องฝังรากในบริเวณฟันหลังของขากรรไกรบน และพบว่ากระดูกมีความบางเกินไป อาจต้องทำการยกพื้นไซนัสขึ้นเพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับรากฟัน
  3. การใช้รากขนาดเล็ก (Mini Implants) เพราะในบางกรณี ทันตแพทย์อาจเลือกใช้รากฟันขนาดเล็ก ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีปริมาณกระดูกไม่เพียงพอ แต่ยังสามารถรองรับรากฟันเทียมขนาดเล็กได้โดยไม่ต้องปลูกกระดูกเพิ่มเติม
  4. วิธีการรอให้กระดูกสร้างตัวเองก่อนทำราก เพราะหากกระดูกมีแนวโน้มฟื้นฟูตัวเองได้ ทันตแพทย์อาจแนะนำให้รอระยะหนึ่งก่อนทำ โดยอาจใช้ตัวกระตุ้นการเจริญเติบโตของกระดูกร่วมด้วย

ทำรากฟันเทียม (Dental implant) ด้วยมาตรฐานสากล ที่ PEARL DENTAL CLINIC

PEARL DENTAL CLINIC เราให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยของผู้เข้ารับการรักษาทุกท่าน ด้วยทีมทันตแพทย์เฉพาะทางด้านรากเทียมที่มีประสบการณ์สูง พร้อมให้คำแนะนำและดูแลอย่างใกล้ชิดเราใช้เทคโนโลยีทันสมัย เช่น CBCT Scan (3D X-ray) เพื่อตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูกและวางแผนการรักษาอย่างละเอียด ทำให้การฝัง รากฟันเทียม แม่นยำและปลอดภัยมากขึ้น 

อีกทั้งเรายังเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ที่มีความแข็งแรงและผ่านการรับรองมาตรฐานกระบวนการรักษาของเราถูกออกแบบมาให้ผู้เข้ารับบริการรู้สึกสบายที่สุด ด้วยเทคนิคพิเศษที่ช่วยลดความเจ็บปวด อาการบวม และทำให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

นอกจากนี้ เรายังมี ราคาที่ย่อมเยา พร้อมโปรโมชันสุดคุ้ม เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการรักษาคุณภาพสูงได้ง่าย คลินิกของเราตั้งอยู่ที่อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เดินทางสะดวก พร้อมมาตรฐานด้านความสะอาดและปลอดเชื้อที่เคร่งครัด ให้คุณมั่นใจได้ว่าการรักษาทุกขั้นตอนจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด หากกำลังมองหาคลินิกทันตกรรมทำฟันที่ใส่ใจคุณทุกขั้นตอน PEARL DENTAL CLINIC พร้อมดูแลคุณ

Facebook
Twitter
Email
X

บทความล่าสุด

นัดเพื่อปรึกษาทันตแพทย์

เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์
เวลาทำการ 9.30 – 20.00 น.

ที่อยู่ : 316  โครงการ J Space ตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ 

แผนที่ : Pearl Dental Clinic