Home » ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการครอบฟันหลังจากรักษารากฟัน จำเป็นแค่ไหน
2025 นี้เป็นยุคที่คนใส่ใจสุขภาพช่องปากมากขึ้น ปัญหาฟันผุที่ลุกลามจนถึงโพรงประสาทฟันยังคงพบบ่อย โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานที่ละเลยการพบทันตแพทย์ หากคุณกำลังตัดสินใจทำรากฟันเทียม หรือสงสัยว่าการใส่ครอบฟันหลังทำรากเทียมจำเป็นแค่ไหน บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจมากขึ้นโดยเฉพาะหากคุณมองหาคลินิกทำฟันดีๆ เช่น Dental clinic Chiang Mai ที่มีทีมแพทย์เฉพาะทางพร้อมดูแลครบวงจร
ก่อนจะตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง เราควรเริ่มจากการเข้าใจความหมายของทั้งสองแนวทางนี้ให้ชัดเจนก่อน
รากฟันเทียม (Dental Implant) คือการฝังวัสดุไทเทเนียมลงไปในกระดูกขากรรไกร เพื่อทดแทนรากฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป จากนั้นจะมีการเคลือบฟันลงบนรากเทียม เพื่อให้ใช้งานได้เหมือนฟันจริง เหมาะสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันไปแล้วอย่างถาวร และไม่สามารถบูรณะฟันเดิมได้อีก
การครอบเสริมที่ฟัน (Dental Crown) คือการบูรณะฟันที่เสียหาย อ่อนแอ หรือผ่านการรักษารากฟัน เพื่อให้ฟันกลับมาแข็งแรงและดูสวยงาม โดยทันตแพทย์จะใช้วัสดุ เช่น เซรามิกหรือโลหะ เพื่อป้องกันการแตกหักและเพิ่มความทนทาน
ฟันที่ผ่านการรักษารากฟันมักมีความเปราะบางมากกว่าฟันปกติ เนื่องจากการรักษาจะต้องนำเนื้อเยื่อประสาทภายในโพรงฟันออก ส่งผลให้ฟันไม่มีความชุ่มชื้นจากภายในอีกต่อไป โครงสร้างฟันจึงอ่อนแอ แตกหักง่าย โดยเฉพาะฟันกรามที่ต้องรับแรงบดเคี้ยวมากเป็นพิเศษ
Dental clinic Chiang Mai หลายแห่งรวมถึง PEARL DENTAL CLINIC มักแนะนำให้ทำการใส่ฟันครอบ ทันทีหลังการรักษารากฟัน เพื่อเสริมความแข็งแรงและป้องกันการแตกร้าว
หลายคนที่เข้ารับการรักษารากฟันเทียมที่ Dental clinic chiang mai ล้วนมักมีคำถามว่า “การครอบที่ฟันเพิ่มสามารถช่วยป้องกันการแตกของฟัน หรือแม้แต่ปกป้องรากฟันได้หรือไม่”
คำตอบคือ : การเคลือบฟันมีบทบาทสำคัญในการเสริมความแข็งแรงให้กับฟันที่อ่อนแอหรือผ่านการรักษารากฟันมาแล้ว เพราะถึงแม้ว่ารากฟันแบบถาวรจะเป็นโครงสร้างที่แข็งแรงมาก แต่ส่วนที่อยู่ด้านบนของรากฟันซึ่งเป็นตัวฟันก็ยังต้องได้รับการปกป้องเช่นกัน
Dental clinic Chiang Mai จึงให้ความสำคัญกับขั้นตอนการครอบที่ฟันเทียบเท่ากันกับหัตถการอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นในกรณีของฟันธรรมชาติ หรือฟันที่ติดตั้งบนรากฟัน เพื่อให้มั่นใจว่าคนไข้จะได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยและใช้งานได้ในระยะยาว
ขั้นตอนการติดวัสดุครอบมักใช้เวลา 1–2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของเคสและวัสดุที่เลือก โดยทั่วไปมีขั้นตอนดังนี้:
โดยขั้นตอนทั้งหมดควรดำเนินโดยทันตแพทย์ที่มีความชำนาญ เช่น ที่ PEARL DENTAL CLINIC ซึ่งมีเครื่องมือทันสมัยและทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการทำรากฟันและครอบเสริมฟันโดยเฉพาะ
โดยทั่วไปแล้วหากผู้ป่วยใช้ฟันที่ได้รับการครอบอย่างถูกวิธี ดูแลสุขภาพช่องปากอย่างดี และเข้ารับการตรวจตามนัดที่ Dental clinic Chiang Mai อย่างสม่ำเสมอ จะทำให้รากฟันที่ฝังไว้นี้สามารถใช้งานได้นานถึง 15–25 ปี หรืออาจมากกว่านั้นในบางราย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น:
การครอบเป็นขั้นตอนสำคัญที่ทำให้รากฟันใช้งานได้สมบูรณ์ โดยเฉพาะรากฟันเทียมที่ทำหน้าที่แทนรากฟันธรรมชาติ ส่วนการครอบเสริมที่ฟันจะทำหน้าที่เป็นตัวฟันสำหรับการบดเคี้ยวและความสวยงาม ด้วยทีมทันตแพทย์จาก PEARL DENTAL CLINIC ที่จะออกแบบวัสดุครอบที่เหมาะกับรากฟันของคุณโดยเฉพาะ ซึ่งการตัดสินใจนี้จะขึ้นอยู่กับคำแนะนำจากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
โดยทั่วไปหลังทำรากฟันจำเป็นต้องใส่ที่ครอบ (Dental Crown) เพื่อเสริมความแข็งแรงและให้สามารถใช้งานได้เหมือนฟันธรรมชาติ โดยเฉพาะในฟันหลังที่รับแรงบดเคี้ยวสูง หากไม่ใส่อาจเสี่ยงต่อการแตกร้าวหรือล้มเหลวของรากเทียมในระยะยาว
อายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ 10–15 ปี แต่หากดูแลสุขภาพช่องปากอย่างดีและพบทันตแพทย์เป็นประจำ สามารถอยู่ได้นานถึง 20 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของวัสดุที่ใช้ครอบ พฤติกรรมการใช้งาน และความถี่ในการตรวจสุขภาพ
วัสดุครอบที่ได้รับความนิยมมีทั้ง เซรามิกล้วน (All-Ceramic) ซึ่งให้ความสวยงามและเหมาะกับฟันหน้า, พอร์ซเลนผสมโลหะ (PFM) ซึ่งแข็งแรงเหมาะกับฟันกราม และ ซิรโคเนีย (Zirconia) ซึ่งเป็นวัสดุที่ทั้งทนทานและดูเป็นธรรมชาติ
บทความล่าสุด
จัดฟันใสแบบเร่งด่วน (Express / Lite) คืออะไร? เหมาะกับใคร?
ถอนฟันนานแล้ว ยังสามารถใส่รากฟันเทียมได้ไหม?
เปรียบเทียบ “วีเนียร์” vs “ฟอกฟันขาว” เลือกแบบไหนให้เหมาะกับคุณ
รากเทียมสำหรับคนไข้โรคหัวใจ หรือเบาหวาน ต้องระวังอะไรบ้าง
นัดเพื่อปรึกษาทันตแพทย์
เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์
เวลาทำการ 9.30 – 20.00 น.
ที่อยู่ : 316 โครงการ J Space ตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
แผนที่ : Pearl Dental Clinic