Home » 7 สิ่งที่ต้องพิจารณา วิธีเลือกคลินิกทำรากฟันเทียม

7 สิ่งที่ต้องพิจารณา วิธีเลือกคลินิกทำรากฟันเทียม

ในความเป็นจริง ไม่ว่าการทำทันตกรรมทั่วไปหรือทันตกรรมเฉพาะทาง การรักษาซึ่งเกี่ยวข้องกับส่วนของเส้นประสาท คนไข้ทุกคนต่างต้องการความมั่นใจในคุณภาพและประสิทธิภาพจากการรักษา เช่น กรณีที่ผู้ป่วยมีปัญหาฟันรุนแรง อุบัติเหตุฟันแตก ฟันหัก หรือฟันผุจนถึงโพรงประสาทที่ไม่สามารถแก้ไขด้วยการอุดฟันทั่วไปได้

สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การเลือกคลินิกทันตกรรมที่เหมาะสำหรับการทำ ‘รากฟันเทียม’ ที่จะช่วยให้คุณมั่นใจและได้รับการดูแลที่ดีที่สุด วันนี้ Pearl Dental Clinic Chiang Mai เรามีคำแนะนำในการเลือกคลินิกทำรากเทียม (Dental Implant) ที่ปลอดภัยและมีมาตรฐาน สำหรับคนเชียงใหม่ที่กำลังมองหาคลินิกดี ๆ มาฝาก ว่าแต่จะมีเช็กลิสต์ไหนบ้างที่ควรพิจารณา ดังนี้

เหตุผลที่ควรทำรากฟันเทียม

การทำรากฟันเทียม (Dental Implant) ไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาการสูญเสียฟันถาวร แต่ยังช่วยรักษาความมั่นคงของกระดูกขากรรไกรและเนื้อเยื่อฟันรอบ ๆ ป้องกันการสูญเสียมวลกระดูกหรือการละลายของกระดูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยป้องกันฟันซี่ข้างเคียงไม่ให้ล้มเอนเพื่อหาที่ยึด

รากฟันเทียมจึงเป็นวิธีการทดแทนฟันด้วยฟันปลอมที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ จึงหมดกังวลเรื่องปัญหาฟันหลุดระหว่างพูดคุย หรือฟันปลอมเลื่อนจากอุปกรณ์ที่หลวมตามการใช้งาน ช่วยให้สามารถพูดคุยและบดเคี้ยวอาหารได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อายุการใช้งานของรากฟันเทียม

โดยทั่วไปรากฟันเทียมมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 10-20 ปี หรือมากกว่านั้น หากผู้ป่วยดูแลสุขภาพช่องปากอย่างเหมาะสม เช่น หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่แข็งหรือเหนียวเกินไป เนื่องจากรากฟันเทียมมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม อายุการใช้งานของรากฟันเทียมจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การดูแลรักษาความสะอาดของช่องปาก พฤติกรรมการรับประทานอาหาร การรักษาความสะอาดบริเวณรากเทียม และคุณภาพของวัสดุ Dental Implan ที่ใช้ นอกจากนี้ การเลือกคลินิกที่มีความชำนาญและได้มาตรฐานตั้งแต่เริ่มต้น ยังมีส่วนสำคัญต่อความทนทานและประสิทธิภาพของรากฟันเทียมในระยะยาวอีกด้วย

การทำรากเทียม (Dental Implant) เหมาะกับใคร

ผู้สูญเสียฟันแท้ไปจากทุกกรณีไม่ว่าจะเป็น อุบัติเหตุหรือการเสื่อมสภาพตามวัย ตั้งแต่อายุ 18 ปี ขึ้นไป
วัยรุ่นหรือผู้สูงอายุที่ไม่มีโรคประจำตัว เช่น
- โรคกระดูกพรุน
- โรคเบาหวาน
- โรคปริทันต์อักเสบรุนแรง
- โรคมะเร็งที่อยู่ในระหว่างการฉายแสง
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด

ทำรากฟันเทียมที่ไหนดี

เมื่อต้องเลือกคลินิกสำหรับการทำรากฟันเทียม หลายคนมักมองหาสถานที่ที่ครบครันทั้งด้านเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยและเทคโนโลยีขั้นสูง พร้อมทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ มีชื่อเสียงในด้านการรักษา เช่น คุณหมอมือเบา คุณหมอที่มีความรู้เฉพาะทาง และการดูแลอย่างใส่ใจทั้งก่อนและหลังการทำรากฟันเทียม

เนื่องจากโครงสร้างและสุขภาพช่องปากของผู้ป่วยแต่ละคนแตกต่างกัน ทันตแพทย์จึงต้องมีความสามารถในการประเมินปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการทำรากฟันเทียมเฉพาะซี่ การทำทั้งปาก หรือแบบ All-on-4 พร้อมเลือกขนาดและวัสดุของรากเทียม (Dental Implant) ที่เหมาะสมกับผู้ป่วยที่สุด เพื่อให้การรักษามีความแม่นยำ ลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาด และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานรากเทียมระยะยาว

7 เช็กลิสต์เลือกคลินิกทำรากฟันเทียมให้มั่นใจ กับ Pearl Dental Clinic Chiang Mai

1.ความเชี่ยวชาญของทันตแพทย์

การทำรากฟันเทียมเป็นหัตถการทันตกรรมเฉพาะทางที่ต้องอาศัยความชำนาญสูง เนื่องจากขั้นตอนการทำ Dental Implant มีความซับซ้อน ตั้งแต่การเตรียมช่องปาก เช่น ขูดหินปูน ผ่าฟันคุด หรืออุดฟัน ไปจนถึงการวางแผนการรักษาเพื่อตำแหน่งฝังรากเทียม การผ่าตัด และการประเมินสภาพกระดูกขากรรไกรและเหงือกของคนไข้

ก่อนตัดสินใจเลือกคลินิก ผู้ป่วยควรศึกษาข้อมูลและดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงผ่านแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ ซึ่งไม่ใช่การโฆษณาชวนเชื่อจากการทำโฆษณา (ADS) หรืออินฟลูเอนเซอร์ แต่เป็นการอ่านรีวิวจากประสบการณ์คนไข้ผู้เข้ารับบริการจริง ๆ เช่น Google และ Facebook เป็นต้น เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความน่าเชื่อถือของคลินิกที่เลือกใช้บริการ

2.เลือกคลินิกที่ให้บริการรากเทียมที่ได้มาตรฐาน

ควรตรวจสอบว่าคลินิกที่เลือกมีมาตรฐานตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ด้วยวิธีดังนี้

พิมพ์ค้นหาบน Google ด้วยคีย์เวิร์ด ‘ตรวจสอบใบอนุญาตคลินิก’ หรือกดเข้าไปที่เว็บไซต์ https://hosp.hss.moph.go.th/
โทรสอบถามได้ที่ 02-193-7000

3.เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ทันสมัย

การฝังรากเทียมที่ประสบความสำเร็จขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและอุปกรณ์เทคโนโลยีที่คลินิกใช้ ตัวอย่างเช่น การใช้เครื่อง X-ray 3 มิติ ระบบคอมพิวเตอร์ช่วยวางแผนการรักษา ตรวจสอบกระดูกบริเวณที่ต้องการทำรากเทียม หรือดูการสบฟันร่วมด้วย เพื่อความแม่นยำ และป้องกันการบาดเจ็บหรือติดเชื้อ เป็นต้น

4.คุณภาพของวัสดุที่เลือกใช้ทำ Dental Implant

วัสดุที่ใช้ในทันตกรรมรากฟันเทียมมีผลต่อความคงทนและความสะดวกสบาย เช่น ไทเทเนียมที่ปลอดภัยต่อร่างกายและเข้ากับกระดูกขากรรไกรได้ดี และต้องไม่ลืมว่าการทำรากเทียมประกอบไปด้วยหลายส่วนด้วยกัน เช่น

รากส่วนที่ฝังลงในกระดูก (Implant Body Or Fixture)
ส่วนยึดระหว่างส่วนราก (Implant Abutment)
ส่วนทันตกรรมประดิษฐ์ (Prosthetic Component)

หมายเหตุ: ควรสอบถามคลินิกถึงยี่ห้อหรือประเภทของวัสดุที่ใช้ รวมถึงการรับประกันคุณภาพ

5.ราคาที่สมเหตุสมผล

การทำรากฟันเทียมถือเป็นการลงทุนในด้านสุขภาพที่สำคัญ ควรเปรียบเทียบราคาจากหลายคลินิก แต่ไม่ควรเลือกเพียงเพราะราคาถูกที่สุด เพราะอาจหมายถึงการลดคุณภาพของวัสดุหรือบริการ

6.ความสะดวกในการเดินทาง

เลือกคลินิกที่ตั้งอยู่ในทำเลที่คุณสามารถเดินทางได้สะดวก หากคุณอยู่ในเชียงใหม่ ใกล้โครงการ เจ สเปซ สันทราย (J Space) ย่านหนองจ๊อม สันทราย “Pearl Dental Clinic Chiang Mai” คลินิกของเราอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับคนไข้ที่อยู่อาศัยในทำเลใจกลางเมือง และต้องการการการเดินทางที่สะดวก เข้าถึงได้ง่าย

7.รีวิวและคำแนะนำจากผู้ใช้บริการ

อ่านรีวิวจากผู้ป่วยที่เคยเข้ารับบริการที่คลินิกนั้น ๆ เพื่อดูความน่าเชื่อถือ เช่น Google หรือ Facebook และหากมีโอกาส ลองพูดคุยกับผู้ที่เคยฝังรากฟันเทียมมาก่อนเพื่อรับฟังประสบการณ์ตรง

การเลือกคลินิกทำ รากฟันเทียม ถือเป็นการตัดสินใจที่สำคัญที่ต้องพิจารณาหลายปัจจัย ทั้งความเชี่ยวชาญของทันตแพทย์ มาตรฐานของคลินิก เทคโนโลยีและอุปกรณ์ คุณภาพวัสดุ ราคาที่สมเหตุสมผล ความสะดวกในการเดินทาง และรีวิวจากผู้ใช้บริการ

หากคุณกำลังมองหาคลินิกทันตกรรมรากเทียม (Dental Implant) ในเชียงใหม่ Pearl Dental Clinic Chiang Mai เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่มีชื่อเสียงในด้านมาตรฐาน เพราะการเลือกคลินิกที่ดี คุณจะได้รับผลการรักษาที่ดี มีประสิทธิภาพ และมั่นใจได้ว่ารากเทียมของคุณจะช่วยเสริมความมั่นใจและคุณภาพชีวิตในระยะยาว